วิธีการเขียนเนื้อเพลงที่มีความหมาย และดนตรีที่น่าสนใจ สื่อได้ถึงใจผู้ฟัง

วิธีฝึกแต่งเวิธีการเขียนเนื้อเพลงที่มีความหมาย และดนตรีที่น่าสนใจ
สื่อได้ถึงใจผู้ฟัง พร้อมแนะนำ
บริการแต่งเพลง

บริการแต่งเพลง

เนื้อเพลงถือเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้บทเพลงนั้นมีความโดดเด่น ได้รับความสนใจจากผู้ฟัง เนื่องจากเนื้อเพลงสามารถบ่งบอก และสื่อความหมายออกมาจากตัวอักษรได้ ดังนั้นการเขียนเนื้อเพลงที่มีความหมาย สื่อถึงใจผู้ฟังได้ควรจะต้องมาจากกระบวนการการแต่งเพลงตามหลักอย่างถูกต้อง การแต่งเนื้อเพลงจึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง จะต้องถูกแต่งจากผู้ที่มีความเป็นมืออาชีพ หรือมีความเชี่ยวชาญทางด้านการแต่งเพลงโดยเฉพาะ ส่วนใหญ่แล้วหลายคนจึงใช้บริการแต่งเพลง แทนที่จะมานั่งเขียนเนื้อเพลงเอง เพราะหากไม่มีความรู้เฉพาะทางด้านนี้ก็อาจจะทำให้เกิดความล่าช้า และอาจจะต้องใช้เวลานานในการแต่งเพลง อย่างไรก็ตามบทความนี้จะพูดถึง วิธีการเขียนเนื้อเพลงที่มีความหมาย ที่สามารถสื่อถึงใจผู้ฟังได้


วิธีการเขียนเนื้อเพลงที่มีความหมาย และดนตรีที่น่าสนใจ สื่อได้ถึงใจผู้ฟัง พร้อมแนะนำบริการแต่งเพลง

วิธีการการเขียนเนื้อเพลงเป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างมากในการแต่งเพลง ซึ่งกระบวนการแต่งเพลงของแต่ละคนก็จะมีความแตกต่างกันออกไป โดยมีขั้นตอนการแต่งเพลงเบื้องต้นดังนี้

  1. กำหนดเป้าหมายของเพลง ก่อนการเขียนเนื้อเพลงทุกครั้งจำเป็นจะต้องกำหนดเป้าหมายก่อนว่าเพลงที่เราจะเขียนนั้นสื่อถึงอะไร เป็นแนวเพลงแบบไหน เพื่อให้สามารถโฟกัสได้ว่าเนื้อเพลงจะมีเนื้อหาประมาณไหน เกี่ยวกับอะไร พูดถึงสิ่งไหน กำลังสื่อถึงความรู้สึกแบบไหน แนวเพลงไปในทิศทางใด การกำหนดเป้าหมายจะทำให้ผู้เขียนอยู่ในทิศทาง ไม่ออกนอกกรอบมากเกินไป และเป็นการทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าถึงสิ่งที่จะสื่อในเพลงได้เป็นอย่างดี
  2. วางสตอรี่ของเพลง การวางสตอรี่ของเพลง เป็นขั้นตอนที่จะทำให้การเขียนเนื้อเพลงทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นขั้นตอนที่กำหนดได้ว่าสตอรี่ ของเพลงจะเป็นไปในทิศทางไหน แต่ละท่อนของเพลงจะสื่อถึงความรู้สึกแบบไหน เล่าเรื่องราวอย่างไร และท่อนไหนของเพลงเป็นท่อนสำคัญ ซึ่งท่อนที่สำคัญของเพลงจะเป็นท่อนที่สัมพันธ์กับชื่อเพลง เพื่อให้เนื้อเพลงที่แต่งอยู่ในกรอบของการแต่งเพลง

  3. เขียนเนื้อเพลง หลังจากทำการกำหนดเป้าหมายของเพลง และวางสตอรี่ของเพลย์เสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถเริ่มขั้นตอนการเขียนเนื้อเพลงได้ สิ่งสำคัญที่สุดในขั้นตอนนี้คือ การเลือกใช้คำอย่างสละสลวย ให้เพลงมีความน่าสนใจ โดดเด่นกว่าเพลงอื่น ๆ เลือกอารมณ์เพลงว่าต้องการให้แนวเพลงไปในแนวไหน เช่นการเลิกรา ความรัก การสู้ชีวิต ขั้นตอนการเขียนเนื้อเพลงก็คล้ายกันกับขั้นตอนการเขียนหนังสือ เพราะตัวอักษรที่บรรจงเขียนลงไปสามารถสื่อความรู้สึกถึงผู้ฟังได้ ฟังแล้วอยากจะฟังต่อ เนื้อเพลงที่เขียนจะต้องใช้คำที่เรียบง่ายแต่สละสลวย ไม่ซับซ้อนหรือเข้าใจยากมากเกินไป แต่ก็ต้องไม่เลือกใช้คำซ้ำหรือคำที่พบบ่อย ๆ มากเกินไป อย่างไรก็ตามการเลือกวิธีการเขียนเนื้อเพลงเนื้อเพลงอย่างอิสระ ไม่ต้องกังวลเรื่องไวยากรณ์ หรือความเป๊ะของคำมากเกินไปก็เป็นวิธีการที่ศิลปินมืออาชีพหลายคนเลือกใช้รวมถึงบริษัทที่ให้บริการแต่งเพลงด้วย เพราะเป็นสิ่งที่จะทำให้ไอเดียของเราเจิดจรัสมากกว่าการที่ต้องมามานั่งกังวลเรื่องของหลักการ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เนื้อเพลงที่เขียนขึ้นมาน่าติดตาม และน่าสนใจมากกว่าเพลงทั่วไปแล้ว

  4. ตรวจเนื้อเพลง หลังจากทำการเขียนเนื้อเพลงเรียบร้อยแล้ว ก็จะต้องตรวจเนื้อหาของเพลง ให้กลับมาอ่านเนื้อเพลงทั้งหมดอีกรอบว่าอ่านแล้วรู้สึกต่อเนื่องไหม หรือมีสะดุดตรงจุดไหนหรือเปล่า หากอ่านแล้วรู้สึกต่อเนื่อง ลื่นไหล มีความรู้สึกว่าเนื้อเพลงที่เขียนไปทั้งหมดรวมกันแล้วมีความลงตัว ไม่รู้สึกฝืน ๆ และสื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกได้เป็นอย่างดี ก็แสดงว่าเนื้อเพลงนั้นสามารถใช้ในขั้นตอนต่อไปได้

  5. ทำดนตรี นอกจากเนื้อเพลงจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เพลงเกิดความน่าสนใจแล้ว การทำดนตรีที่ถูกหลักก็สามารถทำให้เพลงเกิดความลงตัวได้ หลังจากการเขียนเนื้อเพลงเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งถัดไปที่ต้องทำคือการทำดนตรี โดยมีหลักง่าย ๆ คือ ทางเดินคอร์ดจะต้องรองรับกับทำนองของเพลงที่แต่งให้ได้มากที่สุด ดนตรีต้องมีความเข้ากับอารมณ์ของเพลง หากนึกไม่ออกว่าจะทำดนตรีออกไปในแนวทางไหน ก็อาจจะลองตั้งเป้าหมายว่าจะให้เพลงของเราเด่นในด้านไหน หากต้องการให้เนื้อหาเพลงเด่นกว่าดนตรี ก็อาจจะทำดนตรีแบบซอฟต์ ๆ ง่าย ๆ ไม่ต้องมีหลักการอะไรมากจนเกินไป เสียงดนตรีจะต้องไม่แย่งซีนเนื้อเพลงขณะที่ร้อง หรือหากต้องการให้พาร์ทดนตรีเด่น ก็ให้ทำดนตรีให้มีความโดดเด่น โดยอาจจะจ้างมืออาชีพ หรือบริการแต่งเพลง

เทคนิคการแต่งเพลงข้างต้นเป็นเพียงวิธีเบื้องต้นที่เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ค่อยชำนาญในการแต่งเพลง ให้สามารถทำได้ตามขั้นตอนที่ได้อย่างง่ายๆ เพราะดนตรีถือเป็นศิลปะที่สามารถสร้างชิ้นงานได้ออกมาตามที่ชอบ ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องหลักการอะไรมากนัก อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีบริการแต่งเพลงที่สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการแต่งเพลงแต่ไม่ถนัดในด้านนี้ มีทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการ แต่งทั้งเนื้อเพลงและดนตรีให้อย่างเสร็จสรรพ ทำให้หลายคนเลือกใช้บริการแต่งเพลงมากกว่าการแต่งเพลงด้วยตนเอง

Polar Bear Studios & Production เราให้บริการแต่งเพลง แต่งเพลงโฆษณา บริการมิกซ์เสียง บริการนักพากย์เสียงมืออาชีพ สำหรับบันทึกเสียงสปอตโฆษณา พร้อมห้องพักรับรอง และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่จอดรถกว้างขวาง อีกทั้งยังให้บริการเช่าเครื่องดนตรี สำหรับวงดนตรีงานเลี้ยง บริการห้องซ้อมดนตรี สตูดิโอถ่ายภาพ studio ถ่ายรูป ห้องอัดเพลง ห้องบันทึกเสียง ห้องอัดเสียง สตูดิโอบันทึกเสียงคุณภาพ การันตีด้วยรางวัลมากมาย ด้วยประสบการณ์การทำงานในวงการเพลงมายาวนานกว่า 10 ปี

ปรึกษางานด้านเสียงฟรี! หรือสอบถามรายละเอียดบริการ
Polar Bear Studios & Production
โทรศัพท์: 085-991-7992
อีเมล: Polarbearmusic@yahoo.com